STAYING INVESTED THROUGH ALL MARKET CYCLES

STAYING INVESTED THROUGH ALL MARKET CYCLES
—————————————————————————–
(เรื่องที่ Selling Agents และ ผู้แนะนำการลงทุน ควรอ่าน)

bblam04ในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนระยะยาวตามเป้าหมายทางการเงินนั้น เราต้องรู้ว่าเศรษฐกิจมีวงจรของมัน ไม่มีอะไรดีไปชั่วนิรันดร์ แต่ก็ไม่มีอะไรแย่ตลอดกาล

Stay invested through all market cycles หมายถึง เราต้องลงทุนไปตลอดในทุกช่วงวงจรเศรษฐกิจและการลงทุน โดยแสวงหาการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราในแต่ละวงจร

แต่การจะจัดการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหนในสัดส่วนไหร่นั้น เราต้องดูเป้าหมายทางการเงินกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของเราเป็นหลักด้วย คือเรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องของใครของมันโดยแท้จริง … คนอายุเท่ากัน รายได้เท่ากัน ภาระทางการเงินเท่ากัน ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจัดพอร์ตให้เหมือนกัน เพราะ 2 ตัวแปรสำคัญก็คือการยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนกับเป้าหมายทางการเงินของคนๆ นั้นโดยเฉพาะ

อย่าหยุดลงทุน อย่าออกจากตลาด เพราะมันจะทำให้เป้าหมายทางการเงินของเราไม่บรรลุ แต่เราเลือกจัดสัดส่วนลงทุนให้เหมาะสมได้

พี่เคี้ยว พีรพงศ์ CEO ของกองทุนบัวหลวง พูดในงานสัมมนา Bualuang Fund Investment Forum 2019 นี้ว่า …

“การลงทุนในทุกวันนี้เต็มไปด้วยความผันผวน เพราะตลาดหุ้นมีวงจรมีรอบของมัน การที่ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงจึงเป็นธรรมชาติของการลงทุน

เราผ่านวิกฤตใหญ่ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน มองย้อนหลังไปเราได้พบกับวิกฤติต้มยำกุ้งที่เริ่มต้นจากบ้านเราเองและลุกลามไปยังประเทศอื่นด้วย เราเจอสึนามิที่กระทบการท่องเที่ยวและธุรกิจจำนวนมาก มีรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ

เราเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับบ้านเราโดยตรง แต่ตลาดทุนที่เชื่อมโยงกันทำให้เราได้รับผลกระทบไปพร้อมๆ กับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก ต่อจากนั้นก็มีเรื่องน้ำท่วม วิกฤติยูโรโซน มีระเบิดราชประสงค์ มี BREXIT และล่าสุดก็มี Trade War จากลุงไดโนทรัมป์

แน่นอน ตลาดหุ้นบ้านเราก็ได้รับผลกระทบมากมายจากเรื่องต่างๆ เหล่านี้ แต่สุดท้ายตลาดหุ้นก็ยังไปได้ เพราะกิจการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ยังคงมีกำไร หุ้นยังคงจ่ายปันผล มากบ้างน้อยบ้าง หุ้นบางตัวดี บางตัวแย่ แต่ก็มีหลายกิจการที่เติบโตในช่วงวิกฤติ 20 ปีที่ผ่านมาได้ เพราะแข็งแกร่งเพียงพอ และผู้บริหารมีกลยุทธ์ที่ดี นำพาบริษัทให้เติบโตได้
.

ปัญหาของผู้ลงทุนในทุกวันนี้คือเราได้รับข่าวสารมากเกินไปจากทุกช่องทาง ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ทั้งจาก Social Media และอื่นๆ ไม่รู้ข่าวไหนจริง ข่าวไหนเท็จ แถมยังมีกูรูการลงทุนเกิดขึ้นมากมายจนไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าไปหวั่นไหวกับข่าวและปัจจัยต่างๆ ตราบที่เรายังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราลงทุนในระยะยาวนั้นดี และยังคงมีโอกาสส่งให้เราบรรลุเป้าหมายได้”
.

การลงทุนเหมือนการวิ่งมาราธอน ใครวิ่งเข้าเป้าหมายได้ก็ชนะทุกคน ไม่ใช่วิ่งระยะสั้นที่ต้องลงทุนระยะยาว แล้วเราจะได้รับผลตอบแทนแบบได้รับผลจาก power of compounding ซึ่งก็คืออิทธิพลของผลตอบแทนแบบทบต้น

เราอาจจะไม่รู้ว่าจุดที่เราอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นอยู่ตรงไหนของวงจรตลาด และในทุกวิกฤตก็คือโอกาส ดังนั้นการที่เรายังคงลงทุนต่อไปก็ย่อมจะดีกว่า คุณจะไม่รู้เลยว่าจุดไหนคือจุดสูงที่สุด สำหรับการขาย และจุดที่จะกลับเข้าไปลงทุนก็เป็นเรื่องยากที่จะหาจังหวะจุดต่ำสุดเช่นกัน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะพลาดเพราะไปขายเมื่อมันลงมาแล้ว และเข้าไปซื้อเมื่อราคามันพุ่งถึงเพดาน … มักจะตัดสินใจผิดจังหวะ
.

ตลอดเส้นทางลงทุนระยะยาวมักจะมีสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความผันผวนในตลาด มากบ้าง น้อยบ้าง แต่เราก็ไม่ควรหวั่นไหว ในส่วนของกองทุนบัวหลวงนั้นเรามองว่า ไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก เพราะจะทำให้แผนระยะยาวที่วางไว้ผิดเพี้ยนไปได้ ดังนั้น จึงต้องลงทุนต่อไป

Jack Bogle ให้ลงทุนตลอด ไม่ถอน แม้จะเป็น Bear Market (ตลาดหมี) เพราะระหว่างทางของการลงทุนมันมีวงจรขาขึ้นและขาลง แต่ถ้าเรามองยาวๆ แล้วยังคงเห็นอนาคตในการลงทุนนั้นๆ ขาลงย่อมน้อยกว่าขาขึ้น

ดังนั้น ปัญหาที่เราต้องก้าวข้ามให้ได้คืออารมณ์หวาดกลัวของเราในช่วงขาลง เพราะในช่วงนั้นเราก็จะกลัวไปหมด ทั้งๆ ที่ในช่วงนั้นจะมีกิจการดีๆ ที่น่าลงทุนในราคาตลาดที่ตกต่ำ และนั่นคือโอกาสที่นานๆ ครั้งจะมี
.

การที่ตลาดปรับขึ้นหรือลงล้วนเป็นธรรมชาติของการลงทุน จากประสบการณ์แล้วไม่แนะนำการลงทุนในลักษณะเข้าๆ ออกๆ จากตลาด เพราะการหาจังหวะที่ดีที่สุดในการขายออกเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด หรือเข้าซื้อในราคาต่ำที่สุดเป็นเรื่องยากที่สุด ซึ่งนักลงทุนมักจะขายออกเมื่อราคาลงไปมากแล้ว และมักจะซื้อไม่ทันในช่วงราคาต่ำ เพราะสภาวะตลาดมักจะเล่นกับเราทีเผลอเสมอ

การควบคุมสติให้อยู่ จะช่วยป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ panic ต่างๆ ไล่เราออกจากลู่วิ่ง ทำให้เราหลุดไปจากวงจรที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย
.

ในเหตุการณ์แบบนี้ ผู้จัดการกองทุนของกองทุนบัวหลวงทำอย่างไร
——————————————————————————-
เรามองว่าการบริโภคยังเติบโตไปได้ เป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุนในการประเมินมูลค่าจากปัจจัยพื้นฐาน ถ้าแพงไปเจาก็ขาย ถ้าเห็นราคาถูกแล้วมองเห็นโอกาสขึ้นได้เขาก็ซื้อ โดยไส้ในของกองทุนเราปรับพอร์ตให้อยู่แล้ว มีทีมงานดูแลอยู่

อย่าลืมว่าตลาดส่วนใหญ่เป็นวงจรขาขึ้นมากกว่าขาลง ส่วนขาลงในหลายประเทศที่เป็นอยู่นั้น เชื่อว่าผู้จัดการกองทุนที่เป็นพันธมิตรของกองทุนบัวหลวงก็คงประเมินแล้วว่ามูลค่าน่าสนใจหรือยัง

อย่าลืมว่าวงจรของตลาดก็มีการกลับลำได้ ดังนั้นการเป็น Active Investment ช่วยได้

เมื่อผันผวน เกิดแพนิค ไม่ใช่ตลาด Bull หรือ Bear แต่ราคาลงแรง นั่นคือโอกาสของเรา เพราะกองทุนบัวหลวงชอบเข้าซื้อของดีราคาถูก (mispriced stocks)

Baron Rothschild อภิมหาเศรษฐีผู้เป็น Contrarion Investor บอกว่า ซื้อเมื่อเลือดท่วมท้องถนน “The time to buy is when there’s blood in the streets”

ต้องเชื่อมั่นกันว่ากองทุนมีความเป็นมืออาชีพ มี stock picking skill ทุกคน แต่ทำอย่างไรให้มีความสม่ำเสมอ มีถูกมากกว่าผิด เรายังเชื่อในวงสวิงของเราว่ายังใช้ได้อยู่กับทุกสถานการณ์หลายๆ สนาม พร้อมเป็นมิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
.

พี่ตู่ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อขยายความเข้าใจ อย่างเช่น A มีเป้าหมายทางการเงินเรียบร้อยแล้ว และจัดพอร์ตเป็นหุ้น 50% …. ต่อมาตลาดหุ้นตก เขาอยากออกจากตลาดหุ้น

คำถามที่ A ต้องถามตนเอง หรือผู้แนะนำการลงทุนต้องถาม A ก็คือ

1. เขาเปลี่ยนเป้าหมายการเงินหรือไม่

2. ถ้าไม่ใช่ ก็คงสัดส่วนเดิมไป เพราะกองทุนที่เขาลงทุนนั้น ผู้จัดการกองทุนจะเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาตก และขายเมื่อราคาขึ้นแรงไป เร็วไป … คือเป็นหน้าที่ผู้จัดการกองทุนที่จะปรับพอร์ต ไม่ใช่หน้าที่ของ A

3. ถ้าใช่ (อย่างที่พี่ตู่ปรับพอร์ตตนเองเมื่อเดือน กย คือใช่ เพราะตัวเองกำลังปรับเปลี่ยนสัดส่วนลงทุนให้เหมาะสมกับอายุ) ก็กำหนดสัดส่วนลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และอื่นๆ เสียใหม่ แล้วเช็คความเป็นไปได้ของเป้าหมายทางการเงินกับสัดส่วนลงทุนใหม่นั้น แล้วจึงทำการขายสินทรัพย์ส่วนที่ต้องการลดลง ไปซื้อสินทรัพย์ที่เราต้องการมีเพิ่มขึ้น
.

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนในช่วงเวลานี้
———————————————–
นักลงทุนควรลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงใดของวงจรการลงทุนก็ตาม ควรมุ่งไปที่เป้าหมายระยะยาวของตัวเอง พร้อมควบคุมสติไม่ให้ถูกครอบงำโดยข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ รายวัน ถ้าเราควบคุมไม่ได้ บริหารอารมณ์ไม่ได้ โลภ กลัว อคติ จะทำให้ขาดเหตุผล แล้วปัจจัยในช่วงสั้นก็จะมาทำให้ไขว้เขว เกิดสัญชาตญาณฝูงสัตว์คือแห่ทำตามกัน เป็นพฤติกรรมของผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดที่ใช้อารมณ์

เรื่องนี้พี่เคี้ยวบอกว่า …

“แก้ได้ด้วยการเลือกรับข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

กองทุนบัวหลวงของเรา ยึดมั่นลงทุนยาว ทุกธุรกิจเรามองยาว ดู business model 2-3 ปีข้างหน้า และดูว่าจะอยู่รอดในอีก 10 ปีไหม เมื่อวิเคราะห์จนมั่นใจแล้วเราจะเข้าซื้อเพื่อถือยาวไปเลย เพราะไม่ว่าจะอย่าในวงจรเศรษฐกิจไหน การลงทุนยาวจะมี compounding effect ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการเข้าๆ ออกๆ

เรามีทีมงานที่คอยเข้าไปค้นหาธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี และราคาหุ้นปรับลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยเวลาที่หุ้นปรับลดลงแรงก็เป็นโอกาสที่จะได้ซื้อสินค้าในราคาถูกลง”
.

วรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง จำกัด
23 ตุลาคม 2561

Comments

comments