วันนี้วันลอยกระทงแล้ว...

หลายท่านคงมีความสุข สนุกสนานกับเทศกาลลอยกระทงซึ่งก็ถือว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุขของไทย แต่ดังแต่เดิม ครูแชมป์มักจะได้ยินเสมอว่า การลอยกระทงคือการขอขมาพระแม่คงคาที่เราเคยได้ล่วงเกินท่านไป แต่มาตอนหลังชักจะมองเห็นว่า ตกลงเราขอขมา หรือทำลายธรรมชาติกันแน่ ทั้งโฟม ทั้งสิ่งต่างๆที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

เอาหละ เรามาดูความเชื่อเกี่ยวกับวันลอยกระทงกันดีกว่า

จุดประสงค์ของประเพณีลอยกระทงที่มีมาเนิ่นนานนั้นถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา ชาวไทยในสมัยก่อนมีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับแม่น้ำลำคลอง ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม การค้าขาย อุปโภคบริโภคต่างๆ ก็ล้วนแต่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยแม่น้ำลำคลองทั้งสิ้น การลอยกระทงจึงเปรียบเสมือนเป็นการขอขมาพระแม่คงคา ที่มนุษย์ได้ใช้น้ำ ได้ดื่มกินน้ำ รวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงในแม่น้ำ

ความเชื่ออีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน ก็คือ การตัดเล็บ ตัดผม เศษอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และเศษเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ลงไปในกระทงแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอให้เคราะห์ร้ายหายไป ให้ชีวิตมีแต่ความสุขตลอดไป แล้วลอยไปโดยเชื่อว่าเป็นการตัดเคราะห์ตัดโศกสะเดาะให้พ้นเคราะห์พ้นโศกให้หลุดลอยไปในกระทง ของที่ใส่ลงไปมีการเพิ่มและลดตามความเชื่อของแต่ละคน

ปัจจุบันมีการนำเหรียญ หรือธนบัตร ใส่ลงไปในกระทง เพราะเชื่อว่าการที่ทำเช่นนั้นจะเป็นการนำมาซึ่งความร่ำรวยตลอดทั้งปี ขณะที่อีกความเชื่อหนึ่ง เชื่อว่า การใส่เศษสตางค์ลงไป เป็นการตัดเคราะห์เช่นเดียวกับการใส่เศษเล็บ ตัดผมลงไปในกระทง

การอาบน้ำใต้แสงจันทร์ หรือ อาบแสงเพ็ญ คือ การอาบน้ำในที่กลางแจ้งที่แสงจันทร์สามารถตกกระทบ ในเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่ตรงศีรษะพอดี ถือเป็นช่วงที่มีมนต์ขลัง และมีพลังมากที่สุด ที่เราจะสามารถดูดพลังจากพระจันทร์ได้ เชื่อกันว่า จะช่วยเสริมบารมี และสิริมงคลให้แก่ชีวิต เพราะน้ำที่ต้องแสงจันทร์จะช่วยชำระบาป สาปส่งสิ่งที่ไม่ดี ช่วยสะเดาะเคราะห์ และขจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายให้หายไปจากจิตใจและร่างกาย

ตอนนี้ ทุกท่านมีความเชื่อเรื่องการลอยกระทงอย่างไรบ้างครับ อย่าลืมมาเล่าให้ครูแชมป์ฟังกันนะครับ

ความซื่อสัตย์

วันนี้ไปอ่านนิทานมาเรื่องหนึ่ง เรื่องกระต่ายหูยาวเต่าขาสั้น

เรื่องมันมีอยู่ว่า เจ้าเต่าเป็นเด็กที่ขี้ลักขโมย เต่าชอบขโมยของเล่น

จากร้านของลุงหมี เจ้ากระต่ายนึกสงสัยว่า เอ๊ะ!ทำไมเจ้าเต่าเอา

ของเล่นที่ไหนมาเยอะจัง??? และวันนั้นนั่นเองเจ้าเต่าก็ทำเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้ากระต่ายแอบตามไปด้วย เจ้ากระต่ายจึงรู้ความจริง

น้ำเรื่องนี้ไปบอกแก่ท่านนางฟ้า นางฟ้าจึงทำโทษเต่าให้เต่าขาสั้นกว่าเดิม ส่วนเจ้ากระต่ายได้รับหูใหม่ที่ยาวกว่าเดิม

“เราทุกคนต้องมีความซื่อสัตย์ นะค่ะ"

ประวัติของข้าวลืมผัว(คร่าวๆ)

ณ เมืองแห่งหนึ่ง มีประชาชนมากมาย  มีผัวเมียคู่หนึ่งรักกันมากแต่ตอนนั้นมีสงครามเกิดขึ้นพอดี นายพลก็เกรณ์ทหารเพื่อมาออกรบต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม นายพลแหงะไปเห็นผัวของเมียชาวบ้านพอดีจึงสั่งให้ออกรบกับทหารนายอื่นๆ  เช้าวันรุ่งขึ้นทหารก็เริ่มเคลื่อนทับระหว่างนั้นเมียก็หุงข้าวคอยผัวที่จะกลับมาจากการรบสงคราม  จนกระทั่งตะวันตกดิน ผัวก็ยังไม่กลับมา จนเมียหิวมากและรอไม่ไหวแล้วเมียก็เลยกินข้าวจนหมดหม้อ  และนึกถึงผัวตอนข้าวหมด  จึงเป็นที่มาของข้าวลืมผัว

.....คนเก่ง..ไม่ใช่แค่คนที่เข้าใจเรื่องราวต่างๆได้อย่างลุกซึ้งเท่านั้น..ต้องพยายามแล้วตั้งใจทำและมีความมุ่งมั่นอีกด้วย

..หญิงสาวคนหนึ่งอาศัยอยู่ในชนบทของประเทศเยอรมนี สิ่งที่ทำให้หญิงสาวคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นก็คือ เธอชอบฟังนิทานมาก..ถ้าหากว่ามีคนแปลกหน้าปรากฏตัวที่หมู่บ้าน หญิงสาวจะขอให้เขาเล่านิทานที่เขารู้จักให้ฟัง

เธอจำเรื่องที่ฟังมาทุกเรื่อง ทั้งยังเล่าต่อๆให้คนอื่นฟัง เรื่องที่เล่านั้นมีประเด็นให้ขบคิด ทำให้ทุกคนชอบฟังเรื่องที่เธอเล่า

..จนกระทั่งสองพี่น้องตระกูลกริมม์ คือ จาคอบ และ วิลเฮลม์ ไปหาเธอเพื่อบันทึกนิทานต่างๆที่เธอรู้จัก แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือ พวกเขาต้องใช้เวลาหนึ่งปีห้าเดือน จึงสามารถบันทึกเรื่องราวได้ทั้งหมด กลายเป็นหนังสือ ชื่อ. .นิทานสำหรับเด็กและครอบครัว เช่น นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง เจ้าชายกบ เป็นต้น

...เป็นเพราะหญิงสาวคนนั้น ซึ่งเธอตั้งใจ เรียนรู้ฟังนิทานบ่อยๆเธอจึงสามารถจดจำเรื่องที่เธอฟังมาเล่าต่อๆให้คนอื่นฟังได้..ฉะนั้นนอกจากจะตั้งใจแล้วต้องหมั่นฝึกฝนและแสวงหาความรู้...เราก็สามารถเป็นคนเก่งได้