ทำประกันชีวิตในพิษณุโลก

banner_07ชีวิตมีอะไรมากมายที่ต้องดำเนินไป หากมีอุปสรรค ก็อาจทำให้แผนชีวิตที่วางไว้ติดขัดได้

หลายท่านอาจจะยังมองข้ามจุดๆหนึ่งไป แต่โปรดอย่างลืมว่า สิ่งที่ไม่คาดฝันมันมีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ เราควรเตรียมระวังป้องกัน มากกว่าการแก้ไข

ผมขอยกตัวอย่างอาจารย์ท่านหนึ่ง ผมไม่ได้เรียนกับท่านก็จริง แต่เหตุที่ผมจำท่านได้ เพราะท่านได้ไปใช้บริการร้านถ่ายเอกสารร้านเดียวกันกับผม ท่านได้ร่างผลงาน และว่าจ้างให้ร้านถ่ายเอกสารพิมพ์งาน แต่ด้วยการที่ร้านถ่ายเอกสารไม่มีระบบระวังป้องกัน จึงทำให้ไฟล์ติดไวรัส จากนั้น มันก็เอาไปแพร่ที่เครื่องของอาจารย์ท่านนั้น…

…. หายหมดเลย!!!

ข้อมูลทุกอย่าง ทั้งโครงการสอน ผลงานวิจัย ค่าสถิติ รวมถึงรูปครอบครัว หายไปจากเครื่องหมดเลย

ถามว่า เรื่องนี้ผิดที่ใคร…. ผิดที่ร้าน ที่ไม่ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเพื่อป้องกันไวรัสจากลูกค้า และไม่ให้แพร่กระจาย หรือผิดที่อาจารย์ท่านนั้น ที่ไม่ยอมติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสป้องกันข้อมูลต่างๆของตนเอง แม้ว่าจะมีโปรแกรมสำหรับกู้ไฟล์ข้อมูล แต่ก็ยังไม่มีโปแกรมไหนที่สามารถกู้กลับคืนมาได้ 100% ดังนั้น การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข

แม้ว่าทางร้านคอมพิวเตอร์จะลงโปรแกรมมาให้ทุกๆท่าน แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าโปรแกรมตัวนั้น “ป้องกัน” ได้จริงหรือเปล่า เพราะโปรแกรมบางรุ่นค้นหาไวรัสได้แต่ทำลายไม่ได้ (เจอ รู้จัก แต่ทำอะไรไม่ได้) หรือหากเคราะห์หามยามซวย ตัวโปรแกรมที่คุณคิดว่ามันป้องกันไวรัส มันนั่นแหละ คือมัลแวร์ คือตัวไวรัสแบบขโมยข้อมูล แอบทำลายข้อมูลของคุณเอง

……..ยอมเสียเงินซื้อตัวถูกลิขสิทธิ์ ปีละ 690 (ต่อ 1 เครื่อง) หรือ 1320 (ต่อ 3 เครื่อง) แล้วปีที่สองก็ต่ออายุสี่ร้อยกว่าบาท กับแปดร้อยกว่าบาทตามลำดับ ใครมีคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง เลือกอย่างหลังดีกว่า (ตัวอย่างเป็นโปรแกรม Anti Virus ยี่ห้อหนึ่ง)

เขียนมาตั้งนาน ไม่เห็นเกี่ยวกับประกันชีวิตเลย แหมๆๆๆ ก็ต้องเล่าเรื่องราวหน่อย ว่าอะไรก็ตามในโลกนี้ หากไม่มีการป้องกัน มัวแต่มาแก้ไข มันอาจเกิดผลร้ายแรงขึ้นก็ได้

ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ถ้าไม่ระวังป้องกัน ผลกระทบอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับเราคนเดียว เพราะเราไม่ได้เกิดมาตัวคนเดียวอยู่แล้ว เรามีครอบครัว มีพ่อแม่ มีคนที่เรารัก มีลูก มีหลาน ดังนั้น หากเราวางแผนป้องกัน ชีวิตของคนที่เรารักก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้

ผมมีตัวอย่างมาให้ท่านศึกษากัน
ตัวอย่างที่ 1 เด็กอายุ 3 ขวบ เข้าโรงพยาบาลบ่อย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ผู้ปกครองของเด็กตัดสินใจทำประกันชีวิต บวกเพิ่มค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษา เมื่อเข้าไปเป็นคนไข้ใน

ผู้ปกครองเลือกที่จะทำแบบประกันตลอดชีพ จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองจนถึง 99 ปี ได้ปันผลตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป โดยเลือกค่าห้องฯ วันละ 2,200 ไม่เกิด 125 วัน ต่อครั้ง (อาทิตย์นี้หัวแตก อาทิตย์ถัดมาแขนหัก นับเป็นคนละครั้ง) ค่าแพทย์ตรวจ ค่าผ่าตัด ฯ (ส่วนนี้ตัวเลขเยอะครับ ลงไม่หมด)

ค่ารักษาจากอุบัติเหตุจ่ายจริงตามใบเสร็จ ไม่เกิน 50,000 บาท

เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือเหตุปกติ ได้ค่าชดเชย 200,000 บาท หรือจากอุบัติเหตุ ได้ค่าชดเชย 800,000 บาท หรือจากสาธารณภัย 900,000 บาท นอกจากนี้ ยังชดเชยการสูญเสียอวัยวะอีกด้วย

กรณีนี้ ผู้ปกครองของเด็กเลือกเพราะเน้นค่าห้องฯ โดยจ่ายเบี้ยปีละประมาณ 14,324 บาท (บางท่านอาจกำลังคำนวณว่า ถ้าท้องเสียไปนอนโรงพยาบาลอาทิตย์นึง ก็เลยค่าเบี้ยแล้ว) ไม่มีใครอยากนอนโรงพยาบาล ไม่อยากจากไปก่อนวัยอันควร แต่ถ้าเราไม่ได้เตรียมการไว้ วันนึงถ้าเราต้องนอนโรงพยาบาล เราจะเอาเงินตรงไหนมาจ่าย…

ตัวอย่างที่ 2 ผู้ชายอายุ 46 ปี ร่างกายแข็งแรง อาชีพรับจ้างทั่วไป ตัดสินใจทำประกันชีวิต บวกเพิ่มค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษา และค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้าไปเป็นคนไข้ใน

เขาเลือกที่จะทำแบบประกันตลอดชีพ จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองจนถึง 99 ปี ได้ปันผลตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป โดยเลือกค่าห้องฯ วันละ 2,200 ไม่เกิด 125 วัน ต่อครั้ง ค่าแพทย์ตรวจ ค่าผ่าตัด ฯ (ส่วนนี้ตัวเลขเยอะครับ ลงไม่หมด) และเลือกเพิ่มค่าชดเชยรายวัน วันละ 1,000 บาท ไม่เกิน 365 วัน ต่อการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง

หากเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือเหตุปกติ ได้ค่าชดเชย 150,000 บาท หรือจากอุบัติเหตุ ได้ค่าชดเชย 250,000 บาท หรือจากสาธารณภัย 350,000 บาท นอกจากนี้ ยังชดเชยการสูญเสียอวัยวะอีกด้วย

กรณีนี้ จะจ่ายเบี้ยปีละ 16,822 บาท

ตัวอย่างที่ 3 ชาย อายุ 42 ปี อาจทำประกันแบบเดียวกับตัวอย่างที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะทำ แต่พอพบว่าตนเองเป็นโรคเบาหวานในสามเดือนก่อนหน้านี้ เลยอยากจะทำเพื่อลดภาระค่าห้องฯ….. บริษัทไม่รับทำประกัน

จะเห็นได้ว่า ยิ่งอายุมาก ความคุ้มครองจะยิ่งลดลง และยิ่งมีความเสี่ยงมาก เบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้น หรืออาจไม่รับทำประกันเลยก็ได้

อันนี้ ผมเอามาเปรียบเทียบกันนะครับระหว่างชีวิตคน กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ถึงแม้ว่าเราจะป้องกันดีเพียงใด ก็ใช่ว่าโอกาสเกิดความเสียหายจะไม่มี แต่การป้องกันก็ยังบรรเทาความเสียหายให้อยู่ในระดับที่เรารับได้

สำหรับพี่น้องคุณครูในพิษณุโลก ท่านอาจมีการวางแผนลงทุนเพื่อความมั่นคงในส่วนนี้ ลองศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆก่อนนะครับ หรืออาจจะลองเข้าไปดูในเพจของเกรียนออมสิน https://www.facebook.com/money2teacher ได้นะครับ

ขอบพระคุณครับ
ครูแชมป์ 083 411 9888

aiaban01

Comments

comments