Currently browsing category

ทุนความรู้

วิธีเช็คสุขภาพทางการเงิน

ข้อมูลจากพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิครับ หมอนัท … ธนัฐ ศิริวรางกูร .. .ให้เริ่มที่พิจารณาว่าตอนนี้มีเงินอยู่เท่าไร เงินที่มีอยู่จะใช้ได้กี่ปี และจะทำให้เงินเพิ่มขึ้นได้อย่างไร หลังจากนั้นมาดูว่า สวัสดิการด้านสุขภาพมีอะไรบ้าง ใครที่เคยรับราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ยังสามารถใช้สิทธิได้ต่อไปหลังเกษียณจะช่วยลดภาระการเงินได้ แต่คนที่ทำงานภาคเอกชน อาจจะมีสวัสดิการบัตรทอง หรือต้องเก็บเงินก้อนหนึ่งไว้สำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม เมื่อทราบแล้วว่าสุขภาพทางการเงินของตัวเองเป็นอย่างไร จึงมาวางแผนการใช้เงินตามเป้าหมาย เช่น เงินที่มีแผนจะใช้ในอีก 1 ปีข้างหน้า ก็ลงทุนสั้นๆ และปลอดภัย ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2-4% ต่อปี แผนใช้เงินในอีก 2-3 ปีข้างหน้า นำไปลงทุนในพอร์ตความเสี่ยงปานกลาง ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณ 6-8% ต่อปี แผนการใช้เงินในอีก 5-7 ปีข้างหน้า สามารถลงทุนในความเสี่ยงสูงได้ โดยเฉลี่ยจะได้ผลตอบแทนประมาณ 9-10% เตรียมนำเงินก้อนนี้ไปหาผลตอบแทนให้งอกเงย และให้เหมาะสมกับความเสี่ยง (ธนัฐ ศิริวรางกูร .. หมอนัท บรรยายในงาน “วางแผนการลงทุน …

ถ้าแพลนแล้วนิ่ง เงินออมไม่วิ่งนะคร้าบ

ข้อมูลจากพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิครับ วศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง บอกว่า ในมุมของผลตอบแทนไม่สามารถตอบได้ว่าลงทุนกองทุนรวมหรือซื้อหุ้นรายตัว แบบไหนให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่ในมุมของความเสี่ยงตอบได้ทันทีว่าลงทุนในกองทุนรวมมีความเสี่ยงต่ำกว่ามาก การลงทุนก็เหมือนการเดินทาง ระหว่างทางต้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและไปให้ถึงเป้าหมาย มือใหม่ จึงควรเริ่มต้นการลงทุนกับกองทุนรวมเพราะสามารถควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในวงจำกัดได้ คำถามต่อมา จะเลือกกองทุนไหนดี แนะนำให้ดูนโยบายการลงทุนว่าตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ไหม ซึ่งกองทุนรวมมีหลากหลาย แต่กองทุนรวมที่ต้องการสร้างเงินกองทุนไว้ใช้ในระยะยาวควรจะเป็นกองทุนแบบผสม ผู้ลงทุนสามารถผสมเอง หรือให้ ผู้จัดการกองทุนผสมให้ เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ กลุ่มตราสารหนี้ และลงทุนในสินทรัพย์ที่คาดหวังในแง่ของผลตอบแทนที่สูงสุดตามอัตราการเติบโตของธุรกิจ คือหุ้น จุดที่ต้องระวังของการลงทุนเพื่อการเกษียณและคนวัยใกล้เกษียณคือความเชื่อ หรือ Mindset ของคำว่าเกษียณ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคือการหยุด ซึ่งไม่อยากให้คิดแบบนั้น อยากให้มองว่าการเกษียณคือคนที่เป็นอิสระจากภาระงานประจำ ควรจะมีอนาคตที่มีความหวัง เตรียมตัววางแผนการใช้ชีวิต การใช้ชีวิตแบบเด็กจะทำให้เกิดการขวนขวาย หากอยากลงทุน ให้ลงมือทำ แต่ถ้าไม่ได้วางแผนการเงินที่ดีพอจะไม่มีเงินลงทุน และมีเงินไม่พอใช้ (วศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง บรรยายในงาน “วางแผนการลงทุน เพื่อชีวิตดี๊ดีวัยเกษียณสุข” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย …

ลงทุนวัยเก๋า

ข้อมูลจากพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิครับ วศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย แนะนำ วัยเก๋า ให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว เพราะตามสถิติการลงทุนในหุ้น 100% ปีที่ราคาลงแรงๆ ไปถึง 25% ซึ่งจะต้องถือหุ้นนั้นต่อไปอีก 5 ปี ราคาจะกลับมาที่เดิม กรณีเติมตราสารหนี้เข้าไป 50% และมีหุ้นอยู่ 50% ในปีที่หุ้นลงแรงจะลดลงเพียง 6% และใช้เวลาแค่ 2 ปี ในการตีกลับมายืนอยู่จุดเดิม ถ้าลงทุนในหุ้น 30% ที่เหลือเป็นตราสารการเงินอื่นๆ ปีที่หุ้นลงแรงๆ จะลงไม่มาก และใช้เวลาในการตีกลับมายืนอยู่จุดเดิมแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น จากสถิติได้คำตอบว่า ควรจะเป็นการลงทุนแบบผสมตราสารหนี้และตราสารทุนหรือหุ้น เพราะจะทำให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ กองทุนผสม มี 2 แบบ คือ กองทุนบาลานซ์ จะมีการจัดสัดส่วนการลงทุน แล้วรักษาสัดส่วนนั้นไว้ ผลตอบแทนอาจจะมีการเหวี่ยงไปมา แต่ไม่เหวี่ยงมากเท่ากับกองทุนหุ้นอย่างเดียว กองทุนรวมทาร์เก็ตรีเทิร์น …

ลงทุนเพื่อผลตอบแทนสม่ำเสมอ

ข้อมูลจากพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิครับ สมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะนำว่า ก่อนเลือกสไตล์ลงทุนต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละเดือนใช้เงินเท่าไร และจะต้องมีเท่าไรจึงจะพอ หลังจากนั้นจึงมาจัดพอร์ตลงทุน และเลือกกองทุน กองทุนหนึ่งที่น่าสนใจ คือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทั้งแบบที่มีสิทธิในทรัพย์สินหรือเป็นเจ้าของในทรัพย์สินที่ลงทุน (Freehold) และนำรายได้จากการให้เช่ามาจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ปัจจุบันให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี แบบที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน (Leasehold) จะลงทุนโดยการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันยังให้ผลตอบแทน 6-7% สินทรัพย์กลุ่มนี้ถ้าเทียบกับการไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่สิงคโปร์ หรือฮ่องกง หรือไต้หวัน จะได้ผลตอบแทน 2-3% นอกจากนี้ ยังมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ปัจจุบันให้ผลตอบแทนประมาณ 6-7% กองทุน 2 แบบนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการมีรายได้ที่แน่นอน และยังเหมาะกับคนวัย 70 กลางๆ ไปถึง 70 ปลายๆ …

“คำถามที่คุณต้องเป็นคนตอบ”

“คำถามที่คุณต้องเป็นคนตอบ” . สวัสดีครับ ขอทักทายในวันที่เป็นสีแดงๆ อาจมีเขียวบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง มีเหลืองบ้างเป็นหย่อมๆ 555 . เช่นเคยครับ ข้อเขียนนี้ไม่ใช่บทความทางวิชาการ ไม่มีงานวิจัยรองรับ และเป็นเพียงการบอกเล่าประสบการณ์อันน้อยนิดเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ โดยเขียนขึ้นเองไม่ได้ืนำมาจากที่ไหน (สามารถตรวจสอบได้โดยการนำข้อความท่อนใดท่อนหนึ่งไปค้นหาใน google) ทั้งนี้เพราะกลัวผิด พรบ.คอมพ์ และโดนฟ้องหาว่าไปหยิบหวยเขามา 30 ล้าน … เอ๊ะ คนละเรื่องละ 555 . หลายท่านอาจกำลังตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นซึ่งมีผลต่อกองทุนรวมของเรา หลายเดือนก่อนเขียวทำไมตอนนี้แด๊งงงง แดง อยากเรียนตามประสบการณ์ครับว่า ผมก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว ช่วงนั้นเล่นเอาเครียดเลยเพราะเริ่มต้นครั้งแรก แต่พอผ่านจุดนี้ไปได้ หัวใจคุณจะแกร่งขึ้น ไม่หวั่นไหวต่อการผันแปรมากนัก . ทว่า กว่าจะถึงวันนั้นคุณอาจต้อง “เรียนรู้” และ “ยอมรับ” จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เพราะจะทำให้คุณขาด “ภูมิคุ้มกัน” . คุณมีสิทธิ์ที่จะสงสัย มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถาม และ…มีสิทธิ์ที่จะใช้วิจารณญานในการเชื่อข้อมูลจากใครก็ตามที่บอกคุณ เพราะสิ่งที่คุณจะตัดสินใจคือทรัพย์สินของคุณเอง คนอื่นไม่ได้กำไรหรือขาดทุนไปพร้อมกับคุณด้วย …

“บนเส้นทางเม่า”

“บนเส้นทางเม่า” ก่อนอื่นขอนำเรียนก่อนนะครับ ว่านี่เป็นเพียงขอเขียนบอกเล่าประสบการณ์ ไม่ได้มีน้ำหนักทางวิชาการหรือแนะนำใดๆ หากอ่านแล้วมีความขุ่นข้องประการใดก็กราบขออภัยล่วงหน้าครับ พอดีได้เข้าร่วมกลุ่มนี้มาสักพักแล้ว รู้สึกเป็นคนโชคดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมสังคมที่มีน้ำใจให้แก่กัน เพราะก่อนหน้านี้อาจมีบางกลุ่ม บางเว็บที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแบบนี้ แต่ก็มีสมาชิกบางท่านได้ให้ความเห็นเชิงเหน็บ เช่น มีการตั้งกระทู้ว่า “อยากลงกองทุนต้องเริ่มอย่างไร” ก็จะมีบางท่านเข้าไปตอบว่า “ทำไมไม่รู้จักหาข้อมูลในเว็บ” หรือ “ทำไมต้องตั้งกระทู้ซ้ำๆ ทั้งๆที่มีคนตั้งไปหลายคนแล้ว ลองคลิกค้นหาไม่เป็นหรือไง” …หากเราเป็นผู้ตั้งกระทู้ เราจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อ เฮ้ย ก็เราเพิ่งเข้ามาในเว็บนี้ครั้งแรกนี่หว่า ใช้งานยังไม่คล่องนี่หว่า แล้วไอ้คนตอบนี่ เก่งตั้งแต่แรกเลยใช่ไหมหว่า ไม่เคยไปถามอะไรใครใช่ไหมหว่า 555 เรื่องแบบนี้เอาใจเขามาใส่ใจเรานะครับ นอกเรื่องมาเยอะเลย แค่อยากจะเล่าว่า ผมเริ่มเดินทางเข้าสู่เส้นทางเม่านี้ โดยเริ่มต้นเปิดพอร์ตหุ้นก่อน มานั่งนึกตอนหลังว่าเรานี่ลัดขั้นไปเยอะเลย เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครเปิดกลุ่มพูดคุยหาข้อมูลแบบนี้ เงินลงทุนในตอนนั้นประมาณ 17,000 บาท แถมเป็นเงินที่ไปหยิบยืมมาด้วย …นี่คือหายนะของการลงทุน เพราะกฎข้อที่สองของการลงทุนคือ “ห้ามกู้เงินมาลงทุน” จากนั้นก็นึกยังไงไม่รู้เลยลองเข้าซื้อกองทุนรวม จำได้ว่าก่อนซื้อหาข้อมูลเยอะมาก เขามีเปิดบูธที่ห้างฯ ก็เข้าไปนั่งถามพี่คนหนึ่ง ท่านก็ใจดีมาก ผมถามเรื่องของโอกาสขาดทุน โอกาสเหมือนปี …

อยากปลดหนี้ ทำอย่างไรดี

6 ขั้นตอนแก้หนี้ ทำไม่ยากหากตั้งใจจริง ———————————————— หนี้สินรุงรังยังเป็นเรื่องปัญหาโลกแตกของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แต่เชื่อไหม ปัญหาของคนเป็นหนี้ท่วมหัวจำนวนมาก ไม่ใช่มาจากรายได้น้อย แต่มาจากการขาดวินัยทางการเงิน ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนสาเหตุหลักๆ ก็เรื่องนี้ทั้งสิ้น การมีหนี้สินไม่ใช่สิ่งผิด หนี้ที่จำเป็นก็สามารถก่อได้ เช่นหนี้เพื่อการดำรงชีพ หนี้สินบ้าน รถที่จำเป็นต้องใช้ ให้พอเหมาะพอดีตามอัตภาพ แต่หลายคนมารู้เมื่อสายหนี้สินรุงรังพันตัวไปแล้ว สถานการณ์เช่นนี้จะหาทางออกได้อย่างไร ————————————————– หนี้ที่มี จะเป็นปัญหาหรือไม่ อยู่ที่คำว่าวินัย ถ้าเป็นหนี้แล้วรู้ตัวตลอดเวลา มีการบริหารจัดสรรการจ่ายคืนหนี้ และไม่ก่อหนี้ใหม่เกินตัว รู้จักประเมินตัวเอง รู้จักพอเพียง การมีหนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา หนี้สินมีหลายแบบ คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน บางคนไม่อยากเป็นหนี้แต่มีความจำเป็น แต่บางคนก็หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ เพราะโลภ อยากได้ อยากมี และคิดว่าหนี้ไม่ใช่ปัญหา โดยไม่ประเมินกำลังความสามารถในการหาเงินหารายได้หรือชำระหนี้ของตัวเอง นี่คือขาดการวางแผนการเป็นหนี้ แต่จะหนี้แบบไหน ถ้ามีขึ้นมาแล้วเป็นทุกข์ทั้งนั้น จึงต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ ลดละเลิกความอยากได้อยากมีให้ได้ เพราะหนี้มันเกิดง่ายตามความอยาก ที่ซ้ำร้ายคือสิ่งเย้ายวนมีมากขึ้น เดี๋ยวนี้ใครมีอะไรก็โชว์บนเฟส พอเข้าไปเห็นก็อยากได้ อยากไปเที่ยวบ้าง อยากกินบ้าง …

เราควรขายกองทุนรวมเมื่อใด

ขอนำสาระน่ารู้จากพี่ตู่วรวรรณ มาฝากทุกๆท่านครับ เราควรขายกองทุนรวมเมื่อใด ———————————– มีคนถามกันบ่อยมากว่าเมื่อไหร่ที่เขาควรจะขายกองทุน หรือจะให้ถือกองทุนไปจนชั่วฟ้าดินสลาย บางคนบอกว่าต้องการขายเพราะผลการดำเนินงานตอนนี้แย่ บางคนบอกว่าแม้ผลการดำเนินงานดีแต่เบื่อแล้วอยากเปลี่ยนกองไปซื้อของ บลจ. อื่นบ้าง บางคนก็ขายกองทุนประเภทหนึ่งเพื่อไปซื้อกองทุนประเภทอื่นที่กำลังฮิต เมื่อเราถามไปยัง บลจ. ที่เราซื้อกองทุนนี้ เขามักจะตอบว่า “ไม่ควรขาย หากคุณมีการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากประเภทอย่างเหมาะสมแล้ว เพราะว่าแม้กองทุนหุ้นจะไม่ดีในช่วงนี้ แต่กองทุนประเภทอื่นๆ ยังดีอยู่ และโดยรวมแล้วพอร์ตการลงทุนของคุณให้ผลตอบแทนที่ดีพอเหมาะกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับ” ที่เขาตอบเช่นนั้นมันไม่ได้ผิด แต่ปัญหาก็คือคนไทยไม่ค่อยลงทุนระยะยาว เราจึงขายกองทุนออกเป็นครั้งคราว บางคนขายกองทุนหุ้นที่มีมูลค่า NAV ลดลงจาก 10 บาทต่อหน่วย แล้วไปซื้อกองทุนหุ้นเหมือนกันในราคา 4 บาทต่อหน่วยเพราะคิดผิดไปว่ามันถูกกว่า บางคนก็ขายแล้วเอาเงินไปซื้อกองทุนตราสารหนี้ หรือไม่กลับมาในกองทุนใดใดอีกเลยเพราะเข็ดแล้ว . คำถามที่ควรถามตนเองก็คือ มันเป็นการกระทำที่ฉลาดหรือไม่ที่จะขายกองทุนนี้ ในเวลานี้ คำตอบคือ “ใช่ คุณควรขาย” หากว่ามีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ใน 3 ประการข้างล่างนี้เกิดขึ้น . 1. ผู้จัดการกองทุนคงจะหลับ หรือมีจำนวนกองทุนที่ดูแลมากเกินกำลัง หรือต้องเข้าประชุมบ่อยไป …

เราควรขายกองทุนรวมเมื่อใด

หลายท่านที่ลงทุนด้วยตนเองผ่านหุ้น หรืออาจจะใช้วิธีลงทุนผ่านกองทุนรวมมักจะมีคำถามเสมอว่า เมื่อไรควรซื้อกองทุน เมื่อไรควรขายกองทุน วันนี้ได้พบข้อเขียนดีๆจากพี่ตู่ วรวรรณ  ธาราภูมิ จึงได้นำมาฝากทุกท่านครับ เราควรขายกองทุนรวมเมื่อใด ———————————– มีคนถามกันบ่อยมากว่าเมื่อไหร่ที่เขาควรจะขายกองทุน หรือจะให้ถือกองทุนไปจนชั่วฟ้าดินสลาย บางคนบอกว่าต้องการขายเพราะผลการดำเนินงานตอนนี้แย่ บางคนบอกว่าแม้ผลการดำเนินงานดีแต่เบื่อแล้วอยากเปลี่ยนกองไปซื้อของ บลจ. อื่นบ้าง บางคนก็ขายกองทุนประเภทหนึ่งเพื่อไปซื้อกองทุนประเภทอื่นที่กำลังฮิต เมื่อเราถามไปยัง บลจ. ที่เราซื้อกองทุนนี้ เขามักจะตอบว่า “ไม่ควรขาย หากคุณมีการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากประเภทอย่างเหมาะสมแล้ว เพราะว่าแม้กองทุนหุ้นจะไม่ดีในช่วงนี้ แต่กองทุนประเภทอื่นๆ ยังดีอยู่ และโดยรวมแล้วพอร์ตการลงทุนของคุณให้ผลตอบแทนที่ดีพอเหมาะกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับ” ที่เขาตอบเช่นนั้นมันไม่ได้ผิด แต่ปัญหาก็คือคนไทยไม่ค่อยลงทุนระยะยาวในกองทุนหุ้น เราจึงขายกองทุนออกเป็นครั้งคราว บางคนขายกองทุนหุ้นที่มีมูลค่า NAV ลดลงจาก 10 บาทต่อหน่วย แล้วไปซื้อกองทุนหุ้นเหมือนกันในราคา 4 บาทต่อหน่วยเพราะคิดผิดไปว่ามันถูกกว่า บางคนก็ขายแล้วเอาเงินไปซื้อกองทุนตราสารหนี้ หรือไม่กลับมาในกองทุนใดใดอีกเลยเพราะเข็ดแล้ว คำถามที่ควรถามตนเองก็คือ มันเป็นการกระทำที่ฉลาดหรือไม่ที่จะขายกองทุนนี้ ในเวลานี้ คำตอบคือ “ใช่ คุณควรขาย” หากว่ามีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ใน 3 ประการข้างล่างนี้เกิดขึ้น …